Saturday 3 October 2009

Que Sera, Sera 2009

Que Sera, Sera

ผมเริ่มรู้จักกับเพลงนี้ครั้งแรกจากหนังสือเรื่องเพชรพระอุมา

เป็นฉากที่มาเรียไปสำรวจถ้ำกับไชยยันต์ (จำไม่ค่อยได้แล้วอะ นานมากแล้ว) แล้วมาเรียก็ร้องเพลงนี้ขึ้นมา

แต่เป็นท่อนสั้นๆ แต่โดนใจ เพราะรู้สึกว่ามาเรียทิ้งความสวย ความรวย มาลุยในป่าที่ไม่รู้ว่าจะตายตอนไหน


ครั้งที่สองที่ได้ยินเพลงนี้คือตอนดูการ์ตูนของจิบลิเรื่อง ครอบครัวยามาดะ

ครอบครัวยามาดะ เป็นการ์ตูนสั้นๆหลายๆตอน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งในญี่ปุ่น

และในฉากสุดท้าย เป็นฉากในโรงเรียน เด็กๆถามครูว่า "ครูมีเป้าหมายในชีวิตอย่างไรบ้าง"

ครูไม่ตอบ แต่เขียนภาษาญี่ปุ่นตัวใหญ่ๆว่า Que Sera, Sera แล้วเพลงนี้ก็ถูกร้องโดยครอบครัวยามาดะในตอนท้ายๆเรื่อง


ล่าสุดกับ โฆษณาไทยประกันชีวิต...คงไม่ต้องพูดถึงให้มาก เพราะคงได้ดูกันหมดแล้ว

ยอมรับเลยว่าตอนดูครั้งแรกรู้สึกอึ้งมาก รู้สึกกลัวอนาคตที่มองไม่เห็นขึ้นมาทันที แบบว่า อยากโทรไปซื้อประกันเลยละ


สรุปว่าการมาของ Que Sera, Sera ทั้ง 3 ครั้ง ผมรู้สึกดีกับครอบครัวยามาดะมากที่สุด

รู้สึกเป็นวิธีคิดที่ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กๆ เหมือนในเพลงเลย พ่อจะสอนด้วยหลักธรรม แบบ อย่าประมาท แต่ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นเช่นนั้นเอง ของท่านพุทธทาส ........แต่ก็ยังอยากซื้อประกันอยู่นะ



Que Sera, Sera (Whatever Will Be, Will Be) , 1956

written by the Jay Livingston and Ray Evans

When I was just a little girl
I asked my mother
What will I be?
Will I be pretty?
Will I be rich?
Here’s what she said to me:

Que sera, sera.
Whatever will be, will be.
The future’s not ours to see.
Que sera, sera.
What will be, will be.

When I grew up and fell in love
I asked my sweetheart
What lies ahead?
Will we have rainbows
Day after day?
Here’s what my sweetheart said:

Que sera, sera.
Whatever will be, will be.
The future’s not ours to see.
Que sera, sera.
What will be, will be.

Now I have children of my own.
They ask their mother,
What will I be?
Will I be handsome?
Will I be rich?
I tell them tenderly:

Que sera, sera.
Whatever will be, will be.
The future’s not ours to see.
Que sera, sera.
What will be, will be.
Que sera, sera.